ข่าวบอล

ข่าวบอล ที่1แตะ4หมื่นล้าน! เปิด10อันดับทีมยุโรปที่อิ่มอ้วนสุดจากการขายนักเตะช่วง10ปีหลัง

ข่าวบอล การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมามีหลายทีมที่ยอมขายนักเตะฝีเท้าดีของพวกเขาออกไป เพื่อที่จะได้เอาเงินก้อนโตมาช่วยประคองการเงินไม่ให้มีสภาพย่ำแย่ไปมากกว่านี้ หลังจากที่ผ่านมาหลายทีมต้องขาดรายได้จากวันที่มีการแข่งขัน ซึ่งเป็นแหล่งเงินก้อนสำคัญในการทำทีม

ข่าวบอล

ข่าวบอล ทั้งนี้ หากนับตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 เป็นต้นมาแล้วนั้น มันก็มีหลายดีลที่มีมูลค่ามหาศาล จนทำให้ต้นสังกัดเก่าของนักเตะที่ย้ายออกไปร่ำรวยขึ้น และวันนี้เราก็จะมาไล่ดูกันว่าในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานั้น 10 ทีมไหนบ้างที่ทำเงินจากการขายนักเตะได้เยอะที่สุดในทวีปยุโรป โดยที่ข้อมูลนี้อ้างอิงจาก Transfermarkt เว็บไซต์แนวบันทึกสถิติและค่าตัวการย้ายทีมชื่อดัง

 10. ลิเวอร์พูล – 730 ล้านปอนด์ (29,200 ล้านบาท)

ช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ใช้เงินเสริมทัพไปเยอะพอตัวในการดึงนักเตะมาร่วมทัพจนทำให้พวกเขามีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขามีงบใช้เยอะพอตัวมันก็เป็นเพราะพวกเขาเอาเงินจากการขายนักเตะมาเป็นหนึ่งในทุนสำหรับการช็อป โดยคนที่ทำเงินให้ทีมได้มากที่สุดก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ขายออกไปด้วยค่าตัวรวม 130 ล้านปอนด์

ทั้งนี้ ในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ยังสามารถปล่อย หลุยส์ ซัวเรซ ได้ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ด้วยค่าตัว 57 ล้านปอนด์ด้วย ขนาด ริอาน บรูว์สเตอร์ ที่ไม่ได้เป็นกำลังหลักของทีม พวกเขายังปล่อยออกไปได้ด้วยเงินถึง 18 ล้านปอนด์เลย หรือ เดยัน ลอฟเรน ที่ไม่ได้เป็นกำลังหลักของทีมในช่วงโค้งสุดท้ายกับ “หงส์แดง” ก็ยังทำเงินให้ทีมได้ถึง 11 ล้านปอนด์

 9. ปอร์โต้ – 785 ล้านปอนด์ (ราว 31,400 ล้านบาท)

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ปอร์โต้ ได้รับการยกย่องว่ามีระบบการฝึกฝีเท้านักเตะดีเป็นลำดับต้นๆ ของทวีปยุโรป แข้งอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ, ฮัล์ค, เอเลียควิม ม็องกาล่า และ เอแดร์ มิลิเตา ถือเป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงเรื่องนั้นได้ดี เพราะเขาเหล่านั้นเข้ามาอยู่กับทีมในตอนที่ยังไม่โด่งดังมากนัก แต่พอมาเล่นกับ ปอร์โต้ แล้วฝีเท้าของพวกเขาก็ดีขึ้น และส่งผลให้ ปอร์โต ขายพวกเขาด้วยค่าตัวก้อนโตได้

ทั้งนี้ มิลิเตา สามารถทำเงินให้กับ ปอร์โต้ ได้มากถึง 44.5 ล้านปอนด์ด้วยกัน หรืออย่าง โรดริเกซ ก็มี โมนาโก ที่ยอมควักเงิน 42 ล้านปอนด์เพื่อดึงเขาไปจากอ้อมอกของทีมดังแห่งโปรตุเกส ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่รอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมาพวกเขาจะทำกำไรได้ถึง 393 ล้านปอนด์ด้วยกัน

 8. อาแอส โรม่า – 788 ล้านปอนด์ (ราว 31,520 ล้านบาท)

เคยมีคนตั้งทฤษฎีกันเล่นๆ ว่าถ้าเกิด โรม่า ไม่ขายนักเตะเพื่อประคองการเงินของสโมสรแล้วนั้น พวกเขาก็อาจจะมีลุ้นทำอันดับให้ติดอยู่ในกลุ่ม 4 อันดับแรกของตารางคะแนนอย่างต่อเนื่องมากกว่านี้ ไม่ต้องเอาอะไรมาก แค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ อลีสซง เบ็คเกอร์ 2 แกนหลักของ ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบันที่ทำให้ “หงส์แดง” ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตอนนี้ต่างก็ย้ายมาจาก “จัลโล่รอสซี่” กันทั้งคู่ โดยค่าตัวรวมกันของทั้ง 2 คนนั้นอยู่ที่ 92 ล้านปอนด์

ทั้งนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โรม่า ยังขายนักเตะอย่าง รัดย่า นาอิงโกลัน ได้ 34 ล้านปอนด์ และ คอสตาส มาโนลาส 32 ล้านปอนด์ด้วย ทำให้ถึงแม้ในรอบ 1 ทศวรรษนี้พวกเขาจะได้เพีงแค่แชมป์ โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย แต่ตลาดโดยรวมของพวกเขาก็มีตัวเลขขาดทุนเพียง 39 ล้านปอนด์เท่านั้น

 7. เรอัล มาดริด – 823 ล้านปอนด์ (ราว 32,920 ล้านบาท)

แม้จะขึ้นชื่อเรื่องการชอบใช้เงินก้อนโตในการไล่ซื้อนักเตะ แต่ช่วงที่ผ่านมา มาดริด ก็ทำเงินจากการขายแข้งได้สูงเช่นกัน ซึ่งคงที่ทำเงินให้พวกเขาในด้านนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่โดนปล่อยไปให้ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 89 ล้านปอนด์ รองลงมาคือ อังเคล ดิ มาเรีย ที่ย้ายไปอยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยเงินจำนวน 59.7 ล้านปอนด์

ทั้งนี้ หนึ่งในดีลที่ดูคุ้มค่าที่สุดของพวกเขาในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาคงจะหนีไม่พ้น อัลบาโร่ โมราต้า ที่ปล่อยให้ เชลซี ด้วยค่าตัวสูงระยับ 58 ล้านปอนด์ โดยที่สุดท้ายแล้ว โมราต้า ก็ไม่สามารถระเบิดฟอร์มเก่งกับที่ เชลซี ได้ โดยจำนวนนักเตะที่ มาดริด ปล่อยออกไปในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานั้น มีจำนวน 138 คน

 6. บาร์เซโลน่า – 862 ล้านปอนด์ (ราว 34,480 ล้านบาท)

ส่วนใหญ่ของเงินก้อนนี้มาจาก เนย์มาร์ ที่โดนขายให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกที่ 198 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2017 ขณะที่ไม่นานมานี้พวกเขายังได้เงิน 66 ล้านปอนด์จากการขาย อาร์ตูร์ ให้กับ ยูเวนตุส ด้วย หรือถ้าย้อนไปเมื่อ 6 ปีก่อน พวกเขาก็เคยปล่อย อเล็กซิส ซานเชซ ให้กับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์

ขนาด เปาลินโญ่ ยังเคยทำเงินให้ “อาซูลกราน่า” 38.4 ล้านปอนด์ ในตอนที่ บาร์เซโลน่า ปล่อยเขาให้กับ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ หรือ เยร์รี่ มิน่า ที่ไม่ใช่กำลังหลักของทีมก็ยังเคยทำให้ทีมได้เงิน 27 ล้านปอนด์ด้วยกัน ถึงกระนั้ นับตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 เป็นต้นมา บาร์เซโลน่า ก็ยังมีหนี้โดยรวมท่วมหัวถึง 613 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

 5. อาแอส โมนาโก – 868 ล้านปอนด์ (ราว 34,720 ล้านบาท)

ดิมิทรี่ ไรโบลอฟเลฟ เคยทำให้ โมนาโก ดูเหมือนจะเป็นทีมที่ขึ้นมาขับเคี่ยวความเป็นเบอร์ 1 ของประเทศฝรั่งเศสแข่งกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ หลังจากยอมทุ่มเงินดึงนักเตะฝีเท้าดีหลายคนมาร่วมทีม อย่างเช่น ราดาเมล ฟัลเกา, ฮาเมส และ ชูเอา มูตินโญ่

อย่างไรก็ตาม ไรโบลอฟเลฟ ก็เร่ขายนักเตะฝีเท้าดีหลายคนอย่างรวดเร็วจนทำให้ความน่ากลัวของ โมนาโก กลายเป็นเหมือนพลุไฟที่สว่างไปทั่วท้องฟ้าแค่ชั่วครู่เดียว นอกจากจะปล่อย ฮาเมส ด้วยค่าตัวราว 71.58 ล้านปอนด์แล้วนั้น โมนาโก ยังปล่อยเพชรเม็ดงามอย่าง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เพื่อแลกกับเงิน 163 ล้านปอนด์, โตมาส์ เลอมาร์ ด้วยเงิน 63 ล้านปอนด์ และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ด้วยเงิน 58 ล้านปอนด์อีก แน่นอนว่ามันทำให้มีเงินเข้าสโมสรเยอะ แต่ในทางกลับกันมันก็ส่งผลให้ผลงานของทีมไม่ดีเท่าที่ควรตามไปด้วย

 4. เชลซี – 886 ล้านปอนด์ (ราว 35,440 ล้านบาท)

ในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา เชลซี ใช้เงินไปกับการเสริมทัพสูงถึง 1.45 พันล้านปอนด์ แน่นอนว่าส่วนใหญ่มาจากบัญชีธนาคารของ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซียโดยตรง แต่ส่วนหนึ่งมันก็มาจากเงินที่พวกเขาได้จากการขายนักเตะได้หลายราย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ทำเงินในด้านการขายนักเตะให้กับทีมได้มากที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษยี้คือ เอแด็น อาซาร์ ที่มีค่าตัว 150 ล้านปอนด์ แต่พวกเขาก็ยังเคยได้เงินก้อนโตแบบคาดไม่ถึงจากการปล่อย ออสการ์ ให้กับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ด้วยค่าตัว 52 ล้านปอนด์เช่นกัน

 3. ยูเวนตุส – 900 ล้านปอนด์ (ราว 36,000 ล้านบาท)

เมื่อพูดถึง ยูเวนตุส ในพักหลังนั้น สิ่งแรกๆ ในด้านนโยบายการทำทีมที่หลายคนอาจจะนึกถึงพวกเขาคงจะเป็นเรื่องที่ “เบียงโคเนรี่” เสริมทัพด้วยการเซ็นฟรีกับแข้งฝีเท้าดีหลายคน หรือไม่ก็ได้นักเตะเก่งๆ มาร่วมทัพด้วยราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่อีกด้านหนึ่งนั้นพวกเขาก็ทำเงินจากการขายนักเตะได้มากเช่นกัน

ปอล ป็อกบา สามารถทำเงินให้ทีมได้ถึง 89 ล้านปอนด์ ในตอนที่ถูกขายให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นดีลที่คุ้มค่าสุดๆ เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่า ยูเวนตุส ได้เขามาร่วมทัพแบบฟรีๆ โดยยังมีรายของอย่างเช่น เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ที่ย้ายออกไปด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์ หรือ มอยเซ่ คีน ที่โดนขายด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ด้วย ซึ่งในบรรดา 10 อันดับแรกที่เรานำเสนอในครั้งนี้นั้น ยูเวนตุส คือทีมที่ขายนักเตะไปเยอะที่สุดด้วยจำนวน 582 คน

 2. แอตเลติโก มาดริด – 953 ล้านปอนด์ (ราว 38,120 ล้านบาท)

ตอนที่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นำทีมแหกด่าน เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า จนคว้าแชมป์ ลา ลีกา มาครองได้ในฤดูกาล 2013-14 นั้น หลายคนเชื่อว่า “ตราหมี” จะกลายเป็นหนึ่งในทีมที่ขึ้นมาลุ้นแชมป์แข่งกับ “ราชันชุดขาว” และ “อาซูลกราน่า” ได้อย่างสนุก น่าเศร้า ถึงแม้ แอต. มาดริด จะสร้างปัญหาให้กับ 2 ยักษ์ใหญ่ของลีกได้บ้าง และติดอยู่ใน 3 อันดับแรกของตารางคะแนนทุกฤดูกาลนับตั้งแต่ซีซั่นที่ได้แชมป์ แต่พวกเขาก็ไม่เคยได้กลับไปสัมผัสกับถ้วยแชมป์ ลา ลีกา อีกเลย

ส่วนหนึ่งที่เป็นอย่างนั้นมันก็เพราะว่า แอต. มาดริด ปล่อยแข้งตัวหลักไปเยอะพอตัว เอาแค่ช่วงซัมเมอร์นี้พวกเขาก็เสีย โธมัส ปาร์เตย์ มิดฟิลด์ที่เป็นเหมือนลูกรักของ ซิเมโอเน่ เพื่อแลกกับเงิน 45 ล้านปอนด์ หรือถ้าย้อนไปไกลกว่านั้นพวกเขาก็เคยเสีย อ็องตวน กรีซมันน์ ด้วยเงิน 107 ล้านปอนด์ และ ดีเอโก้ คอสต้า ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ด้วย นี่ยังไม่นับรวม ราดาเมล ฟัลเกา ที่ย้ายออกไปก่อนที่ทีมจะได้แชมป์ลีกอีก โดยที่ ฟัลเกา ถูกขายออกจากทีมด้วยค่าตัว 51 ล้านปอนด์

 1. เบนฟิก้า – 1 พันล้านปอนด์ (ราว 40,000 ล้านบาท)

จริงอยู่ ลีกของโปรตุเกสอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, บุนเดสลีกา เยอรมัน, ลา ลีกา สเปน, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส แต่มันก็ต้องนับถือ เบนฟิก้า ที่สามาถรคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ถึง 6 สมัยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่พวกเขาขายนักเตะฝีเท้าดีออกไปมากมาย

นอกจาก รูเบน ดิอาส ที่เพิ่งโดนขายให้ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 64 ล้านปอนด์แล้วนั้น พวกเขายังเคยได้เงิน 101 ล้านปอนด์จากการโลก ชูเอา เฟลิกซ์ ให้กับ แอต. มาดริด ด้วย แถมยังมีกรณีของ เอแดร์ซอน โมราเอส ที่ย้ายออกจากทีมด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์, อั๊กเซล วิตเซิ่ล ที่ถูกเคาะขายด้วยราคา 34 ล้านปอนด์อีก และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ทำเงินให้ทีมได้ 32 ล้านปอนด์อีก ด้วยเหตุนี้ ในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา เบนฟิก้า จึงทำกำไรได้สูงถึง 539 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

 

 

 

ขอบคุณข่าว : www.siamsport.co.th
สนใจสมัคร ติดต่อ : ufabetsale.com